สินเชื่อบ้าน ที่ไหนดี

สินเชื่อบ้าน ที่ไหนดี

สินเชื่อบ้าน ที่ไหนดี น่าจะเป็นคำถามที่ใครหลายคนอยากรู้ในช่วงนี้กันไม่น้อย แน่นอนว่าผลกระทบจากวิกฤติโควิด 19 ที่แพร่ระบาดกลับมาเป็นครั้งที่ 3 นี้ ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ รวมทั้งภาคประชาชนกันไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าสำหรับเรื่องของอสังหาริมทรัพย์นั้น เป็นหนึ่งภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบไปแบบเต็ม ๆ รู้หรือไม่ว่าในช่วง 1-2 ปีที่ผ่าน ภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยต้องพบกับภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองจากวิกฤติโควิด 19 รวมทั้งกลุ่มลูกค้าชาวจีนที่หายไป ทำให้ได้รับกระทบต่อยอดขายไปกันไม่น้อย อ่านเพิ่มเติม

5 ธนาคารเอกชน สินเชื่อบ้านที่ไหนดี ?

1. สินเชื่อบ้านธนาคารไทยพาณิชย์ SCB

          สินเชื่อบ้าน SCB ประเภทสินเชื่อบ้านใหม่ มีจุดเด่นตรงที่จะอนุมติวงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาประเมินหลักประกัน ภายใต้เงื่อนไขกำหนด โดยระยะเวลาผ่อนสินเชื่อยาวสุด 30 ปี รวมอายุผู้กู้แล้วต้องไม่เกิน 65 ปี ที่น่าสนใจคือทางธนาคารยังเคลมด้วยว่าเป็นสินเชื่อบ้านที่จะให้อิสระทั้งในแง่ของการเลือกอัตราดอกเบี้ยคงที่หรือลอยตัวก็ได้  โดยอัตราดอกเบี้ยล่าสุดที่ประกาศ ณ 1 เม.ย. 2564 จะมีอัตราดอกเบี้ย MRR 5.995% *แต่รายละเอียดเรื่องของโปรโมชันอัตราดอกเบี้ยจะเป็นอย่างไร ต้องทำการสอบถามเจ้าหน้าที่ธนาคารอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังเคลมว่าอนุมัติเร็ว ทราบผลเร็ว พร้อมเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินที่จะบริการอย่างมืออาชีพอีกด้วย

 สรุปได้ว่า เป็นสินเชื่อบ้านที่น่าสนใจไม่น้อย ด้วยความเป็นมืออาชีพขององค์กรในการทำงาน ปรึกษาสินเชื่อบ้านได้ และยังเคลมว่าอนุมัติไว เหมาะสำหรับผู้คนที่ต้องการซื้อบ้านในช่วงเร่งรีบได้ดีทีเดียว อย่างไรก็ตามเรื่องของจุดด้อยคงเป็นเรื่องของรายละเอียดดอกเบี้ยที่ไม่ได้ทราบแน่ชัด สำหรับใครกำลังใจสินเชื่อบ้าน SCB ลองสอบถามเจ้าหน้ากันโดยตรงได้เลยข้อมูลบ้าน

2. สินเชื่อบ้านกรุงศรี

 สินเชื่อบ้านกรุงศรี มีหลากหลายประเภทสินเชื่อเป็นอย่างมาก โดยจะขอยกตัวอย่างสินเชื่อบ้านกรุงศรี ที่เรียกว่า “สินเชื่อบ้านกรุงศรี เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย” จุดที่น่าสนใจของสินเชื่อบ้านกรุงศรีประเภทนี้ก็คือ การเป็นสินเชื่อที่รองรับผู้กู้ซื้อบ้านทั้งในประเภทบ้านมือสอง และประเภทบ้านมือหนึ่ง โดยวงเงินกู้สูงสุดจะอยู่ที่ 90%ของราคาประเมิน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับประเภทอสังหาริมทรัพย์ นั่นคือ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ และทาวน์โฮม รวมทั้งอาคารพาณิชย์ จะอนุมัติวงเงินสูงสุด 90% ของราคาประเมิน แต่หากเป็นห้องชุดหรือคอนโดมิเนียม สินเชื่อบ้านกรุงศรีจะมีวงเงินกู้สูงสุด 85 % ของราคาประเมิน

          ทั้งนี้มีเงื่อนไขว่าจะต้องกู้ขึ้นต่ำ 1 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนเรื่องของระยะผ่อนจ่ายสินเชื่อสูงสุด 30 ปี รวมอายุผู้ยื่นกู้จะไม่เกิน 65 ปี  หากใครต้องการกู้ร่วมนั้น สินเชื่อนี้จะรองรับการกู้ร่วมทั้งหมด 3 เมื่อร่วมผู้กู้หลักแล้วก็คือ 4 คนนั่นเอง จุดนี้เองจึงเป็นโอกาสสำหรับคนที่ต้องการซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียม ที่มีความสามารถในการผ่อนจ่ายน้อย ก็สามารถกู้ร่วมเพื่อซื้อบ้านได้อย่างแน่นอน ส่วนเรื่องของอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านกรุงศรีนั้น ก็จะมีให้เลือกมากมายแล้วแต่ความต้องการส่วนบุคคล แต่ที่สังเกตได้คือ

• หากเป็นทรัพย์ที่มีมูลค่าไม่ถึง 5 ล้านบาท จะมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกราว 3.82-4.21% ต่อปี
• ส่วนทรัพย์ที่มีราคาตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป จะมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกราว 3.52-3.89% ต่อปี

 สรุปได้ว่า สินเชื่อบ้านสินเชื่อบ้านกรุงศรีเหมาะอย่างมากสำหรับคนที่ต้องการกู้ร่วม เพราะสินเชื่อนี้เปิดรับผู้กู้ร่วมสงสุดถึง 3 คน นอกจากนี้ยังมีแนวทางหลากหลายประเภทดอกเบี้ยในเราเลือกตามความต้องการอีกด้วย ส่วนข้อด้อยของสินเชื่อนี้น่าจะเป็นเรื่องข้อจำกัดวงเงินสินเชื่อขั้นต่ำที่ต้องสูงกว่า 1 ล้านบาท ดังนั้นหากใครต้องการกู้ซื้อบ้านหรือห้องชุดไม่ถึง 1 ล้านบาทก็ต้องหมดสิทธิ์ในการยื่นกู้ นั่นเอง

3. สินเชื่อบ้านธนาคารกรุงเทพ

          สำหรับสินเชื่อบ้านธนาคารกรุงเทพ หรือที่เรียกว่า “สินเชื่อบ้านบัวหลวง” สำหรับประเภทสินเชื่อบ้านสำหรับลูกค้าทั่วไป สินเชื่อบ้านธนาคารกรุงเทพ ประเภทนี้จะเป็นสินเชื่อที่จะอนุมัติวงเงินสูงสุด 70-100% ของมูลค่าหลักประกัน โดยหากเป็นทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงเกินกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป จะมีวงเงินอนุมัติสูงสุดไม่เกิน 80% ของมูลค่าหลักประกัน  โดยผู้กู้สามารถผ่อนนานสูงสุด 30 ปี (เฉพาะพนักงานประจำ สูงสุด 35 ปี) ซึ่งหากรวมอายุผู้กู้สูงสุด 65 ปี นั้นเอง โดยจะคิดค่าธรรมเนียมประเมินหลักประกัน 3,000 บาท (ไม่รวม VAT) แต่จะได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมการจัดการสินเชื่อ ข้อมูลบ้าน

ที่น่าสนใจคืออัตราดอกเบี้ยที่มี 2 แนวทางให้ผู้กู้ได้เลือก โดยจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ

• สินเชื่อบ้านธนาคารกรุงเทพ กรณีวงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท หากเป็นพนักงานที่มีรายได้ประจำจะมีอัตราดอกเบี้ยแท้จริงต่อปี ตลอดอายุสัญญา 4.45-4.50%
  • หากเป็นลูกค้าทั่วไปจะมีอัตราดอกเบี้ยแท้จริงต่อปี ตลอดอายุสัญญา 4.70-4.72% และ
• สินเชื่อบ้านธนาคารกรุงเทพ กรณีวงเงินตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป หากเป็นพนักงานที่มีรายได้ประจำจะมีอัตราดอกเบี้ยแท้จริงต่อปี ตลอดอายุสัญญา 4.33-4.38%
  • หากเป็นลูกค้าทั่วไป จะมีอัตราดอกเบี้ยแท้จริงต่อปี ตลอดอายุสัญญา 4.38-4.41%  ที่น่าสนใจคือสามารถสมัครออนไลน์ได้ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง หรือจะพบเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อปรึกษาก่อนก็สามารถทำได้เช่นกัน

 สรุปได้ว่า สินเชื่อบ้านธนาคารกรุงเทพ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับพนักงานประจำ เพราะจะได้รับอัตราดอกเบี้ยดอกเบี้ยต่ำกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับลูกค้าทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นยื่นกู้วงเงินกู้เท่าไรก็ตาม ส่วนจุดด้อยของสินเชื่อบ้านธนาคารกรุงเทพ คงเป็นเรื่องวงเงินกู้ที่จะอนุมัติน้อยลงเมื่อเป็นทรัพย์ที่มีราคาสูงเกิน 10 ล้านบาทเพราะจะได้รับวงเงินอนุมัติสูงสุดไม่เกิน 80% ของมูลค่าหลักประกัน

4. สินเชื่อบ้านธนาคารกสิกรไทย

          สินเชื่อบ้านกสิกรไทย เป็นสินเชื่อรองรับอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การซื้อบ้านใหม่, การซื้อบ้านมือสอง รวมทั้ง การปลูกสร้างบ้าน หรือจะเป็นการต่อเติมซ่อมแซมที่อยู่อาศัย โดยวงเงินกู้นั้น กรณีซื้อบ้านใหม่หรือบ้านมือสองก็ตาม จะได้รับเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 90% ของราคาซื้อขายและราคาประเมินหลักทรัพย์ โดยจะเป็นสินชื่อบ้านที่สามารถทำเรื่องกู้ร่วมได้สูงสุด 3 คน โดยจะต้องเป็นเครือญาติตามกฎหมาย รวมทั้งคู่สมรสไม่จดทะเบียน  โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือไม่ว่าจะเป็นการกู้เดี่ยวหรือกู้ร่วม ต้องมีรายได้สุทธิขั้นต่ำ 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป  โดยสามารถผ่อนชำระยาวนานสูงสุด 30 ปี เมื่อรวมกับผู้กู้ต้องไม่เกิน 70 ปี ซึ่งถือว่าเป็นช่วงอายุที่ยาวทีเดียวสำหรับธนาคารเอกชน เพราะส่วนใหญ่มักจะสูงสุดที่อายุ 65 ปี

ด้านอัตราดอกเบี้ยจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ

• กลุ่มลูกค้ารายได้ประจำ จะมีอัตราดอกเบี้ยแท้จริงตลอดอายุสัญญา 5.44%  และ
• หากเป็นลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการ จะมีอัตราดอกเบี้ยแท้จริงตลอดอายุสัญญา 5.94%  และที่น่าสนใจคือ การอนุมัติรวดเร็วภายใน 3 วันทำการอีกด้วย ภายในเงื่อนไขเฉพาะการอนุมัติเบื้องต้น และยื่นเอกสารครบถ้วนเท่านั้น

 สรุปได้ว่า หากถามว่าสินเชื่อบ้านที่ไหนดี หนึ่งในนั้นคือสินเชื่อบ้านกสิกรไทย เพราะมีการยื่นระยะผ่อนชำระได้นานสุดถึงอายุ 70 ปี ซึ่งเรียกว่ายาวทีเดียวสำหรับกลุ่มธนาคารเอกชน ที่ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีอายุสูงสุดที่ 65 ปี นอกจากนี้ยังเหมาะอย่างมากสำหรับใครที่ต้องการทราบความสามารถในการกู้บ้านหรือก็คือความเป็นไปได้ในการกู้ซื้อบ้านของตนเอง เพราะ สินเชื่อบ้านกสิกรไทย จะมีบริการพิจารณาเบื้องต้นอนุมัติภายใน  3 วันทำการนั่นเอง สำหรับข้อด้อยของสินเชื่อนี้ คงเป็นเรื่องของข้อเสียเปรียบด้านอัตราดอกเบี้ยกลุ่มลูกค้าประเภทผู้ประกอบการ เพราะมีอัตราดอกเบี้ยแท้จริงเฉลี่ยสูงกว่าลูกค้าที่เป็นพนักงานประจำ

5. สินเชื่อบ้าน ธนาคารทหารไทย TMB

          สินเชื่อบ้าน TMB จะมีชื่อว่า “สินเชื่อทีเอ็มบี บ้านใหม่ บ้านมือสอง” แค่อ่านชื่อสินเชื่อก็รู้แล้วว่าครอบคลุมทั้งบ้านมือสองและบ้านใหม่ ภายใต้วงเงินขั้นต่ำ 500,000 บาทและสูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาท เรียกได้ว่าเป็นช่วงราคาที่เปิดกว้างเลยทีเดียว โดยวงเงินที่ว่านี้ หากเป็นทรัพย์ที่มีมูลค่าไม่เกิน 10 ล้านบาท และเป็นโครงการของผู้ประกอบชั้นนำที่ธนาคารกำหนด เช่น เอพี(ไทยแลนด์), แลนด์แอนดเฮ้าส์, แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ เป็นต้น

สามารถปรึกษาสินเชื่อบ้านได้เลย เพราะมีโอกาสอนุมัติวงเงินสูงสุด 100% ของราคาซื้อขายหรือประเมินที่ต่ำกว่าเลยทีเดียว ขณะเดียวกันหากเป็นโครงการทั่วไปจะอนุมัติวงเงินสูงสุด 95% ของราคาซื้อขายหรือประเมินที่ต่ำกว่า ส่วนในกรณีทรัพย์มูลค่า 10 ล้านบาทขึ้นไป จะได้รับการอนุมัติวงเงินสูงสุด 90% ของราคาซื้อขายหรือประเมินที่ต่ำกว่า โดยระยะเวลาผ่อนชำระจะยาวนานสุด 35 ปี เมื่อรวมกับอายุผู้กู้ แล้วต้องไม่เกิน 65 ปี ด้านอัตราดอกเบี้ย

• หากเป็นโครงการประกอบการชั้นนำจะคิดอัตราดอกเบี้ยแท้จริงตลอดอายุสัญญา 3.98-4.45%
• ส่วนหากเป็นโครงการทั่วไปจะคิดอัตราดอกเบี้ยแท้จริงตลอดอายุสัญญา 4.45-4.90% และ
• ในกรณีที่เป็นบ้านมือสองจะคิดอัตราดอกเบี้ยแท้จริงตลอดอายุสัญญา 5.47-5.97%

ที่น่าสนใจคือ ทั้งหมดนี้จะได้รับโปรโมชั่นฟรีค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย และค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ อีกด้วย

 สรุปได้ว่า  สินเชื่อนี้เหมาะอย่างมากสำหรับใครที่กำลังซื้อบ้านใหม่เป็นโครงการอังหาริมทรัพย์จากผู้ประกอบการชั้นนำ สามารถปรึกษาสินเชื่อบ้านได้เลย เพราะนอกจากจะมีโอกาสได้รับวงเงินอนุมัติสูงสุด 100% แล้ว ยังมีโอกาสผ่อนจ่ายด้วยอัตราดอกเบี้ยแท้จริงตลอดอายุสัญญา 3.98-4.45% ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในกลุ่มลุกค้าทุกประเภทอีกด้วย ส่วนจุดด้อยของสินเชื่อนี้ก็คงจะเป็นเรื่องการกู้ซื้อบ้านมือสอง เพราะจะคิดอัตราดอกเบี้ยแท้จริงตลอดอายุสัญญา 5.47-5.97% สูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับประเภทอสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ นั่นเอง