บ้านทรอปิคอลหลังคาหน้าจั่ว
บ้านทรอปิคอลหลังคาหน้าจั่ว
บ้านทรอปิคอลหลังคาหน้าจั่ว บ้านริมนา สัมผัสความเรียบง่ายในระยะประชิดบ้านกลางทุ่มนาเขียว ๆ ดูแล้วสดชื่นหลังนี้ สร้างในคูรูเนคลาเป็นเมืองใหญ่ในประเทศศรีลังกา ที่ยังหลงเหลือพื้นที่ธรรมชาติและเกษตรกรรมอยู่ไม่น้อย สำหรับที่นี่ก็เช่นเดียวกันมองไปทางไหนก็มีไร่ นา และภูเขา
จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่สถาปนิกจะได้แรงบันดาลใจในการออกแบบ และการเลือกวัสดุมาจากความประทับใจในภูมิทัศน์ของทิวเขาแนวนอนสูงตระหง่าน ที่มองเห็นได้ผ่านทุ่งนาเขียวขจี ได้ผลงานออกมาเป็นบ้านวัสดุธรรมชาติหลังคาจั่วสูงล้อไปกับสัณฐานของแนวเขา ส่วนภายในก็ดีไซน์ให้บ้านเปิดออกสู่ทุ่งนาขึ้นไปจนสุดขอบฟ้า
แบบบ้าน 2 ชั้น สวยๆ
บ้าน 2 ชั้นพื้นที่ 300 ตารางเมตรหลังนี้ มองจากภายนอกบ้านมีรั้วรอบขอบชิดและค่อนข้างสูงจึงมีความเป็นส่วนตัวจากถนน หลังจากเปิดประตูบ้านเข้ามาจึงเห็นทางเข้าโรงรถอยู่ตรงหน้า ขยับไปข้างๆ เป็นพื้นที่ open space เปิดโล่งออกสู่ท้องฟ้าเป็นลานสวน ทำให้รู้สึกถึงพื้นที่เปิด ใส่ความสดชื่นที่แทรกตัวอยู่ภายใน ลักษณะการวางตำแหน่งของบ้านจะไม่ใช่อาคาร 2 ชั้นก้อนเดียวใหญ่ ๆ แต่จะแบ่งเป็นอาคารหลังคาจั่วแหลม 2 ก้อน หันข้างตั้งฉากกัน จึงเห็นบ้านในหลากหลายมุมมองรีวิวบ้านโมเดิร์น
จากภายนอกเราจะเห็นว่าตั้งแต่หลังคาลงมาถึงรั้ว สถาปนิกเลือกชุดสีของตัววัสดุไม่ว่าจะเป็นอิฐ ไม้ คอนกรีต ที่ดูกลมกลืนเข้ากันได้กับสภาพแวดล้อม ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการออกแบบบ้านที่จะไม่แข่งขันกับธรรมชาติ เท่านั้นไม่พอ ยังมีลานสวนที่เป็นเสมือนกันชนสีเขียวก่อนเข้าถึงตัวบ้านอีกชั้น และปลูกต้นไม้รากอากาศเป็นกำแพงที่ช่วยกรองแสง กันฝุ่น ลดความแข็งกระด้างของตัวบ้านไปพร้อมกัน
ภายในมีผนังอิฐเปลือยและประตูไม้สูงเปิดออกสู่ทางเข้าแคบ ๆ นำไปสู่ห้องนั่งเล่นที่มีความสูงสองเท่าและกว้างขวาง หน้าต่างไม้กระจกบานใหญ่ช่วยให้ภายนอกเข้ามาได้ ผสมผสานภูมิทัศน์ธรรมชาติเข้ากับตัวบ้านได้อย่างลงตัวบ้าน 2 ชั้น
ในชั้นแรกฟังก์ชันการใช้งาน ประกอบด้วย ห้องนั่งเล่น ห้องทานอาหาร ครัว ล็อบบี้ดูทีวี ห้องนอน 2 ห้อง ห้องออกกำลังกายแบบเปิด และบาร์ขนาดเล็ก ที่เชื่อมกับทุ่งนาสีเขียวผ่านพื้นที่กึ่งกลางแจ้งขนาดใหญ่ เป็นเฉลียงที่มีชายคายื่นยาวออกมาปกคลุม การตกแต่งโดดเด่นสะดุดตากับการเลือกชิ้นงานศิลปะ โคมไฟ และองค์ประกอบของภาพเขียน มาเติมเอกลักษณ์ให้กับตัวบ้านที่สะท้อนถึงบุคลิกของผู้อยู่อาศัย ในขณะที่สถาปนิกสามารถสร้างรูปแบบการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายด้วยการใส่ความรู้สึกของสถาปัตยกรรมร่วมสมัยของศรีลังกาลงไปควบคู่กัน
สิ่งใหม่ที่เราได้พบในสถาปัตยกรรมนี้คือ การจับภูมิทัศน์รอบ ๆ มาอยู่ในกรอบสายตา และการออกแบบบ้านให้มีจังหวะของช่องว่าง ไม่ว่าจะเป็นช่องว่างระหว่างอาคารที่แทรกด้วยคอร์ทยาร์ด หรือจังหวะการเปิดภายในบ้าน อย่างเช่น ในห้องนั่งเล่นที่เจาะเป็นโถงสูงสองเท่าแบบ Double Space เชื่อมต่อชั้นลอยในแนวตั้ง ในขณะที่ผนังสามารถเปิดได้กว้างด้วยการติดตั้งประตูบานเฟี้ยมหลายๆ บาน ช่วยให้ภายนอกเข้ามาได้ ผสมผสานภูมิทัศน์ธรรมชาติเข้ากับตัวบ้านได้อย่างลงตัว
ตามความตั้งใจของสถาปนิก คือ สร้างพื้นที่ที่สะดวกสบายและมีชีวิตชีวาในขณะที่ผสมผสานกับภูมิทัศน์ธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม เป็นการท้าทายที่จะจัดการกับส่วนหน้าของบ้าน เนื่องจากอาจสามารถมองเห็นได้ทั้งหมดผ่านภูมิทัศน์โดยรอบ หน้าบ้านจึงมีระดับความสูงของรั้วมากและตัวบ้านค่อนข้างปิด เพื่อจำกัดการมองเห็นของแถบที่อยู่อาศัยที่พลุกพล่านหนาแน่น ให้ได้ระดับความเป็นส่วนตัวสูงสุด ในขณะที่ด้านหลังเปิดออกได้ตลอดแนวผนังและใส่พื้นที่กระจกสูงจนมองเห็นถึงวิวขอบฟ้า
เดินขึ้นบันไดมาเรื่อย ๆ จนถึงชั้นบน จะพบกับระเบียงทางเดินที่นำทางแยกและเชื่อมต่อไปยังห้องนอนส่วนตัว ทีมงานจัดตำแหน่งห้องนอนใหญ่ตั้งอยู่ด้านติดกับห้องนั่งเล่น แม้จะแยกชั้นกันเพื่อไม่ให้มีการรบกวนจากกิจกรรมทั่วไปที่ชั้นล่างส่งผลกระทบต่อการพักผ่อนที่ชั้นบน แต่สมาชิกที่อยู่ระหว่างชั้นก็ยังมีปฏิสัมพันธ์ที่ใกล้ชชิดต่อกันได้ผ่านช่องว่างแนวตั้งขนาดใหญ่นี้
โครงสร้างหลังคาทำชายคายื่นออกมาขนาดใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ใช้งานแบบกึ่งเอาท์ดอร์อย่างระเบียงและเฉลียงหลังคาบางส่วน ทำให้พื้นที่ใช้งานได้แม้ในพื้นที่ที่มีสภาพอากาศเลวร้าย ระเบีงและชานที่ทำจากไม้ธรรมชาติให้ความสะดวกสบายมากขึ้น และทำหน้าที่เป็นตัวกลางแบ่งเขตหลักของโครงสร้างที่มนุษย์สร้างขึ้น และสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ในขณะที่เชื่อมต่อพื้นที่หลักทั้งหมดเอาไว้ในแนวนอนตามทิวเขา
แม้แต่ในห้องน้ำก็ไม่หนีไปจากธรรมชาติ ลองนึกภาพว่าจะสุขใจแค่ไหน หากได้ใช้งานห้องน้ำท่ามกลางต้นไม้เขียวๆ ล้อมรอบด้วยแผ่นหิน และแสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมาจากด้านบน เหมือนยกพื้นที่กลางแจ้งมาเก็บไว้ในบ้าน ให้ร่างกายได้เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติอย่างแนบสนิท
บ้านในเขตร้อนชื้น สิ่งที่สำคัญในการสร้างบ้าน คือ ต้องคำนึงถึงการปกป้องบ้านจากลม ฝน และแสง รวมไปถึงระบายอากาศ การลดความร้อนสะสมภายในบ้าน ซึ่งรูปแบบหลังคาเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ หลังคาที่เหมาะสมต้องมีความสูงค่อนข้างมากอย่างเช่น หลังคาทรงจั่วสูง เพื่อให้ความร้อนลอยขึ้นสู่ที่สูงและระบายออกจากตัวอาคารได้ดี ในส่วนของชายคาบ้านนั้นจำเป็นต้องมี เพราะจะเป็นองค์ประกอบที่ปกป้องตัวบ้านจากแสงแดดและฝนได้ดีกว่าบ้านโมเดิร์นไร้ชายคา
หลังคาทรงจั่ว เป็นแบบหลังคาบ้านที่มีเอกลักษณ์และเป็นทรงพื้นฐานที่พบเห็นได้ทั่วไปในประเทศไทย เมื่อมองจากที่ไกลๆ จะมองเห็นทรงหลังคาเป็นรูปสามเหลี่ยม โดยลักษณะทรงหลังคาเป็นหน้าจั่วสามเหลี่ยมยาวไปตลอดทั้งอาคารมีด้านปะทะลมสองด้านและด้านลาดชันสองด้าน ซึ่งองศาความลาดเอียงของทั้งสองฝั่งอาจจะเท่าหรือไม่เท่ากันก็ได้
การ ก่อสร้าง บ้าน ส่วนหลังคา นอกจากเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยป้องกันแดด ลม และน้ำฝน แล้ว แบบหรือรูปทรงหลังคา ยังเป็นส่วนที่ช่วยให้บ้านดูโดดเด่นสวยงาม หลังคาทรงจั่ว เป็นหนึ่งในแบบหลังคาบ้านที่ได้รับความนิยมและพบเห็นได้ทั่วไปในบ้านเรา
หลังคาทรงจั่ว เหมาะกับบ้านประเภทใด
หลังคาทรงจั่ว เป็นแบบหลังคาบ้านของไทยมาตั้งแต่ยุคโบราณ เพราะเหมาะกับการ ก่อสร้างบ้าน ที่อยู่ในภูมิภาคที่มีสภาพอากาศร้อนชื้น โดยเฉพาะเป็น หลังบ้านเรือนไทยแล้ว หลังคาทรงจั่ว ยังประยุกต์ใช้กับบ้านแบบสมัยใหม่ได้หลากหลาย เช่น หลังคาทรงจั่วกับบ้านปูนเปลือย หรือหลังคาสองสองชั้นทรงจั่ว
ข้อดีของหลังคาทรงจั่ว
-หลังคาทรงจั่ว จะมีพื้นที่ใต้หลังคามาก มวลอากาศใต้หลังคาจะทำหน้าที่เสมือนเป็นฉนวนอีกหนึ่งชั้น ช่วยกันความร้อนไม่ให้เข้ามาภายในบ้าน
-ความลาดชันของหลังคาทรงจั่ว หรือยื่นชายคาให้มีระยะมากขึ้น ก็จะสามารถกันแดดกันฝนได้ดีมากขึ้น
-เป็นหลังคาที่สามารถรับลมได้ดีที่สุด และก่อสร้างได้ง่ายกว่าหลังคาทรงอื่น
ข้อด้อยของหลังคาทรงจั่ว แม้รูปทรงของหลังคาทรงจั่วด้านปะทะจะรับลมได้ดี แต่อาจเกิดเหตุการณ์ฝนสาดได้หากตัวบ้านและหน้าจั่วหันผิดทิศ
สำหรับบ้านหลังคาทรงจั่ว นอกจากประยุกต์ใช้กับแบบบ้านสมัยใหม่ได้แล้ว วัสดุ ก่อสร้าง
ในการทำโครงหลังคา ยังใช้ได้ทั้งโครงไม้ และโครงหลังคาเหล็กอีกด้วย
บ้านสองชั้น ข้อดีของบ้านสองชั้น
1. เหมาะสำหรับผู้มีพื้นที่สร้างบ้านจำกัด: บ้านสองชั้นนับว่าตอบโจทย์อย่างยิ่ง หากคุณมีที่ดินขนาดเล็กแต่มีความต้องการพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่มากพอ สำหรับสมาชิกในครอบครัว แม้งบประมาณเริ่มต้นก่อสร้างจะสูงกว่าบ้านชั้นเดียว แต่บ้านของคุณจะได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มอีกเป็นเท่าตัว จากขนาดที่ดินที่ใช้ก่อสร้างเท่า ๆ กัน ที่สำคัญคือ บ้านสองชั้นจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับที่ดินมากกว่าบ้านชั้นเดียว
2. เหมาะกับครอบครัวขนากลาง – ใหญ่: บ้านสองชั้นมีพื้นที่ใช้สอยมากและมีการแบ่งชั้นชัดเจน จึงสามารถจัดสรรพื้นที่ใช้สอยหรือห้องต่าง ๆ ได้อย่างเป็นสัดส่วน แม้สมาชิกครอบครัวจะมีหลายคน แต่ก็อยู่อาศัยได้โดยไม่อึดอัด
3. การแบ่งสัดส่วนห้อง: สามารถแบ่งสัดส่วนห้องต่าง ๆ ให้เหมาะกับการใช้งานได้ดีและสะดวกกว่า เช่น ชั้นบนก็ให้ความเป็นส่วนตัวอย่างสบายใจ ไม่โดนรบกวนจากสภาพแวดล้อม เสียง ฝุ่น และอากาศถ่ายเทได้ดี จึงควรออกแบบเป็นห้องนอน ห้องทำงานส่วนตัว และหากบ้านไหนมีเฟอร์นิเจอร์หรือข้าวของเครื่องใช้เยอะ ยังสามารถแบ่งพื้นที่จัดเก็บได้ง่าย ดูเรียบร้อยหรือสะอาดกว่าบ้านชั้นเดียว
4 ปลอดภัย: บ้านสองชั้นสามารถช่วยป้องกันอันตรายจากสัตว์เลื้อยคลาน แมลง และโจรผู้ร้ายได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังต้องระมัดระวัง โดยติดตั้งรั้ว และปิดบ้านให้เรียบร้อยอยู่เสมอ
ข้อเสียของบ้านสองชั้น
1. ไม่สะดวกสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ที่นั่งวีลแชร์: บ้านสองชั้นส่วนใหญ่มีห้องนอนอยู่ชั้นบน อาจทำให้ผู้สูงอายุหรือผู้ที่นั่งวีลแชร์ต้องลำบากและเสี่ยงต่ออุบัติเหตุในการขึ้นลงบันได กรณีที่ทำห้องนอนไว้ชั้นล่างสำหรับผู้สูงอายุ หากเราพักอยู่ชั้นบนของบ้าน เมื่อท่านต้องการความช่วยเหลืออาจไม่สะดวกนัก สำหรับสมาชิกที่ต้องดูแลผู้สูงอายุแล้วนอนอยู่ห้องนอนชั้นบน
การจะสร้างบ้านชั้นเดียวหรือบ้านสองชั้นนั้น แน่นอนว่า… ต้องดูการใช้งานของเจ้าของบ้านเป็นหลัก ทั้งในเรื่องของการใช้ชีวิตประจำวัน สมาชิกภายในบ้าน พื้นที่ที่จะก่อสร้าง รวมไปถึงงบประมาณ และเมื่อทุกท่านตัดสินใจเลือกบ้านที่ “ฟังก์ชั่น” เหมาะกับการใช้ชีวิตของตัวเองได้แล้ว น้องพีดี ก็ขอให้สนุกกับการ “ดีไซน์” บ้านให้สวยถูกใจนะครับ ก่อนจากกัน น้องพีดี ขอส่งท้ายไอเดียแบบบ้านชั้นเดียวและแบบบ้านสองชั้นสวย ๆ จากศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ รับรองได้ว่าสวยถูกใจแน่นอน!