รีวิวบ้าน 2 ชั้น

รีวิวบ้าน 2 ชั้น

รีวิวบ้าน 2 ชั้น บ้าน 2 ชั้น คือ บ้านที่มีชั้นบนและชั้นล่าง เชื่อมต่อด้วยบันไดบ้าน โดยพื้นที่ชั้นบนและชั้นล่างมีอัตราส่วนเท่า ๆ กัน มีฟังก์ชั่นและห้องต่าง ๆ รองรับการอยู่อาศัย ตามการออกแบบแปลนทั้งชั้นบนและชั้นล่างคลิ๊กที่นี่

บ้านโมเดิร์นสองชั้น

“บ้านสถาปนิก” แค่ได้ยินคำนี้เชื่อว่าหลายคนย่อมมีความคาดหวังว่าจะได้เห็นความพิเศษ หรือไอเดียที่แปลกและแตกต่างจากบ้านของคนอื่น ๆ ทั่วไป ด้วยความที่สถาปนิกทำงานคร่ำหวอดอยู่กับการทำหน้าที่ออกแบบบ้านพักอาศัยให้ผู้คนมากมาย เมื่อมาลงมือสร้างบ้านของตัวเองน่าจะทำได้ง่ายที่สุด แต่ในความเป็นจริงเราพบว่าสถาปนิกหลายคนคิดว่าการออกแบบตัวเองยากกว่าบ้านทั่วไป เพราะต้องวิเคราะห์ตัวตนออกมาให้เด่นชัด และท้ายที่สุดหน้าตาก็อาจจะไม่ต่างจากใคร ๆ เพียงแต่จัดเต็มในสิ่งที่ชอบได้ในทุกตารางเมตรเหมือนบ้านหลังนี้เป็นต้น

Seymour House เป็นบ้านของ Lani Fixler ตั้งอยู่บนบล็อกที่ตัดแบ่งค่อนข้างแคบ แม้จะเป็นแบบนั้นแต่ Lani ก็คว้าโอกาสที่จะทำบ้านในฝัน โดยตั้งใจว่าจะใช้องค์ความรู้ทางสถาปัตยกรรมฝังความรู้สึก บุคลิกภาพ และประวัติครอบครัวไว้ในบ้าน พร้อมกันนี้ก็พยายามให้บ้านสอดคล้องเคารพบริบทแวดล้อมด้วย ดีไซน์ภายนอกของบ้านสะท้อนให้เห็นถึงความชื่นชมในสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ สร้างสถานที่ที่เป็นส่วนตัว ในขณะเดียวกันก็มีส่วนร่วมอย่างเปิดกว้างกับภาพท้องถนน ด้วยความเคารพต่อบ้านมรดกที่อยู่ใกล้เคียง สะท้อนบุคลิกที่ถ่อมตัวแต่ก็ยังมีความมั่นใจในตัวเอง เคารพต้นไม้ และมรดกในพื้นที่

Seymour House แม้จะเน้นการออกแบบด้านหน้าอาคารด้วยเส้นสายฟาซาดเรียบง่าย โดยใช้เหล็กเส้นสีขาว ๆ ปิดบังอำพรางพื้นที่ใช้สอยข้างใน หรือกระจกใสที่อ้างอิงถึงความทันสมัย ​​แต่ในรายละเอียดอื่น ๆ จะเสริมด้วยวัสดุที่เป็นธรรมชาติ เช่น งานบล็อคคอนกรีต คอนกรีตเปลือย ไม้ หินชนวนที่ปูพื้น และหินอ่อน เป็นต้น

เมื่อเริ่มก้าวเข้าสู่ตัวบ้าน จะพบว่าแต่ละส่วนแต่ละพื้นที่ได้รับการออกแบบอย่างมีจุดประสงค์ และสะท้อนถึงความต้องการ ไลฟ์สไตล์ของครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นการใส่ฟังก์ชันที่ชอบ การเจับคู่วัสดุ โทนสี การจัดแสง งานตกแต่งด้วยศิลปะ และเฟอร์นิเจอร์ ที่มีทั้งความเท่ ความลึก และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว บางมุมก็นำของเก่าที่ Lani และสามีของเธอเก็บรวบรวมมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา และมรดกสืบทอดของครอบครัวมารวมกันสมกับที่เธอตั้งใจให้บ้านเป็นฉากหลังของชีวิตที่สะท้อนถึงความหลงใหลในครอบครัวของเธอ

งานของ Lani มุ่งเน้นไปที่สิ่งที่เธออธิบายว่า “สวยงามและมีประโยชน์ใช้สอย” เน้นที่การออกแบบที่รอบคอบ ขับเคลื่อนด้วยความใส่ใจในรายละเอียด มองเห็นองค์ประกอบที่คาดไม่ถึงตลอด แสดงออกถึงความรู้สึกบุคลิกภาพ อย่างเช่น ในห้องนั่งเล่นพักผ่อนรับรองแขก มีโต๊ะรับแขกที่หลากสไตล์และไม่ใช่ชุดเดียวกัน มีโต๊ะกลางขาแปลกสีทองเหลือง ชั้นวางของติดผนังที่สวยงามแต่โชว์ให้เห็นผิวอิฐบล็อกที่ไม่ฉาบทับเรียงอยู่ ผนังอีกด้านเป็นกระจกใสมองเห็นสวน ตรงพื้นที่ว่างจะวางตกแต่งคอลเลกชั่นของสะสมและงานศิลปะของเรา รวมถึงชิ้นส่วนที่มีคุณค่าทางจิตใจ เช่น โคมไฟระย้า Sciolari สองชิ้นที่เป็นงานออกแบบในปี 1950

การสร้างลำดับฟังก์ชันในบ้านจะค่อย ๆ จัดเรียงตัวเองตามหน้าที่และความคุ้นเคยในการใช้งานประจำวัน เริ่มจาก พื้นที่สำหรับนั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหาร และห้องครัวที่รวมกันเปิดออกสู่สวน โดยที่การเปลี่ยนโซนจากทางเข้าไม่จำเป็นต้องใช้ผนังหรือสิ่งกีดขวางใด ๆ  บ้านจึงเหมือนเป็นรูปภาพขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับต้นไม้ริมถนนทะลุเข้ามาสู่ภายในอย่างไหลลื่น ถัดจากมุมต้อนรับแขกที่ดูจะโก้ปนเท่ได้กลิ่นอายของเรโทร การตกแต่งในมุมอื่นๆ ของบ้านจะเป็นไปในอารมณ์รู้สึก สงบ และเปิดโปร่งให้เกิดการสื่อสารระหว่างพื้นที่ครอบครัว ในขณะที่มีพื้นที่ส่วนตัวจะแยกออกไปต่างหาก

ครัวและห้องน้ำเน้นโทนสีขาวของวัสดุที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นไม้เซาะร่องทำสีขาว ท็อปซิงค์ล้างหินสังเคาระห์ เคาน์เตอร์ครัวหินอ่อน สลับกับงานไม้สีธรรมชาติ หินขัด และตัดเส้นสายตาด้วยสีดำ เป็นการตกแต่งบ้านที่ความสมดุลของวัสดุ เนื้อสัมผัส ความนุ่มนวล และความแข็งแกร่ง ความหรู โก้ มีมุมย้อนอดีต แต่ก็มีความล้ำสมัย ล้วนเป็นตัวตนแท้ ๆ ของเจ้าของบ้านที่กลั่นกรองออกมาได้อย่างสวยงาม

 หินขัด หรือ Terrazzo เป็นหนึ่งวัสดุตกแต่งพื้นบ้านที่เป็นที่นิยมในยุคสมัยหนึ่ง คิดค้นขึ้นโดยชาวอิตาลีในสมัยศตวรรษที่ 16 ทำจากปูนซีเมนต์ขาวกับหินเกล็ด โดยมีการใช้สีผสมซีเมนต์และวัสดุอื่นๆ จึงสามารถออกแบบสีสันได้หลากหลาย จะปูเป็นพื้นแบบไร้รอยต่อก็ได้ หรือจะเพิ่มลูกเล่นด้วยการใส่เส้นสีทอง หรือ เส้น PVC ก็ได้ พื้นหินขัดมีความสวยงาม แข็งแรงทนทาน ดูแลรักษาง่าย  แต่ต้องระวังเรื่องการเกิดรอยร้าวได้ง่าย หากเทไม่ดี ทำให้เกิดร่อนในอนาคต กรณีที่เกิดการกระเทาะหรือผิวหน้าสึกกร่อนต้องแก้ไขทุบเฉพาะส่วน มักมีปัญหาสีของเนื้อการขัดใหม่ไม่เข้ากับสีเนื้อเดิม หากใช้ในห้องน้ำพื้นผิวจะลื่นนิด ๆ ต้องจัดการเรื่องความลื่นให้ดีเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้

ข้อดีของบ้าน 2 ชั้น

1. สร้างได้แม้ขนาดที่ดินจำกัด

หากมีที่ดินขนาดเล็กแต่ต้องการพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่มากพอ หรืออยู่อาศัยหลายคน ต้องการห้องนอนหลายห้อง บ้าน 2 ชั้นตอบโจทย์มากกว่า แม้ว่าบ้าน 2 ชั้น จะใช้งบประมาณก่อสร้างมากกว่าในการก่อสร้าง บนขนาดที่ดินเท่ากัน แต่ได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว

2. เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่

ครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่ ที่อยู่อาศัยกันหลายคนในบ้านหลังเดียว การอยู่บ้าน 2 ชั้น สามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอย แบ่งชั้นได้อย่างชัดเจน สามารถจัดสรรพื้นที่ใช้สอยหรือห้องต่าง ๆ ได้อย่างเป็นสัดส่วน ต่อให้มีสมาชิกครอบครัวหลายคนก็ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด

3. แบ่งห้องได้เป็นสัดส่วน

บ้าน 2 ชั้น สามารถแบ่งสัดส่วนห้องต่าง ๆ ให้เหมาะกับการใช้งานได้ดีและสะดวกกว่า เช่น ชั้นบนเป็นห้องนอน มีความเป็นส่วนตัว สบายใจ ไม่โดนรบกวนจากสมาชิกคนอื่น ๆ หรือห้องทำงานส่วนตัว ที่ต้องการความสงบและสมาธิ หรือถ้าหากมีเฟอร์นิเจอร์หรือข้าวของเครื่องใช้เยอะ ก็ยังสามารถแบ่งพื้นที่จัดเก็บได้ง่าย หรือเพิ่มห้องเก็บของอีกห้องก็ได้ เพราะมีพื้นที่เหลืออยู่เยอะ

4. ถ่ายเทความร้อนภายในบ้านได้ดี

ถ้าเปรียบเทียบกันแล้ว บ้าน 2 ชั้นจะถ่ายเทความร้อนภายในบ้านได้ดีกว่า พื้นที่อยู่อาศัยชั้นล่างจะค่อนข้างเย็นสบายกว่าชั้นบน เพราะมีในส่วนของชั้นบนที่ช่วยป้องกันความร้อนที่จะลงมาสู่ชั้นล่าง

5. ปลอดภัย

ด้วยความที่ตัวบ้านบ้าน 2 ชั้น ยกพื้นสูงมากกว่าบ้านชั้นเดียว หากมองในแง่ความปลอดภัยจากสัตว์เลื้อยคลาน แมลง และโจรผู้ร้าย ที่บ้าน 2 ชั้นสามารถป้องกันได้ดีกว่า แต่ทั้งนี้ก็ไม่สามารถรับประกันได้ 100% ยังคงต้องระมัดระวัง สร้างรั้วรอบขอบชิด และปิดบ้านให้เรียบร้อย

เหมาะสำหรับผู้มีพื้นที่สร้างบ้านจำกัด: บ้านสองชั้นนับว่าตอบโจทย์อย่างยิ่ง หากคุณมีที่ดินขนาดเล็กแต่มีความต้องการพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่มากพอ สำหรับสมาชิกในครอบครัว แม้งบประมาณเริ่มต้นก่อสร้างจะสูงกว่าบ้านชั้นเดียว แต่บ้านของคุณจะได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มอีกเป็นเท่าตัว จากขนาดที่ดินที่ใช้ก่อสร้างเท่า ๆ กัน ที่สำคัญคือ บ้านสองชั้นจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับที่ดินมากกว่าบ้านชั้นเดียว 

ข้อด้อยของบ้าน 2 ชั้น

1. ต้องอาศัยความชำนาญในการก่อสร้าง

การก่อสร้างบ้านสองชั้นนั้นก็ต้องอาศัยทักษะฝีมือในการก่อสร้างมากกว่าบ้านชั้นเดียว เนื่องจากมีระยะความสูงของเสาที่มากกว่า และมีการออกกแบบคานมากถึง 2 ชั้น เพื่อรับน้ำหนักพื้น

2. งบประมาณสูงกว่า

เมื่อมีการเพิ่มพื้นที่ใช้สอย เพิ่มจำนวนชั้น แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างย่อมสูงกว่าในกรณีสร้างบ้าน หรือในกรณีซื้อบ้าน 2 ชั้น ก็จะเห็นได้ว่ามีราคาสูงกว่าบ้านชั้นเดียว

3. ไม่สะดวกสำหรับผู้สูงอายุ/ผู้ที่นั่งวีลแชร์/เด็กเล็ก

บ้าน 2 ชั้นส่วนใหญ่มีห้องนอนอยู่ชั้นบน อาจทำให้ผู้สูงอายุหรือผู้ที่นั่งวีลแชร์ต้องลำบากและเสี่ยงต่ออุบัติเหตุในการขึ้นลงบันได กรณีที่ทำห้องนอนไว้ชั้นล่างสำหรับผู้สูงอายุ หากเราพักอยู่ชั้นบนของบ้าน เมื่อท่านต้องการความช่วยเหลืออาจไม่สะดวกนัก

สำหรับสมาชิกที่ต้องดูแลผู้สูงอายุแล้วนอนอยู่ห้องนอนชั้นบน หรือในกรณีที่มีเด็กเล็กอยู่อาศัย ก็ยิ่งต้องคอยระวัง เพราะอาจเล่นซนจนพลาดพลั้งตกบันได ได้รับความบาดเจ็บได้

บ้าน 2 ชั้น เหมาะกับใคร

บ้าน 2 ชั้น เหมาะกับคนที่มีที่ดินขนาดเล็ก แต่มีความต้องการพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่มากพอสำหรับสมาชิกในครอบครัว ซึ่งจะมีงบประมาณก่อสร้างสูงกว่าบ้านชั้นเดียว แต่ได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มอีกเป็นเท่าตัว ต้องการความเป็นสัดส่วนและสมาชิกอยู่อาศัยร่วมกันหลายคน

ไม่ว่าจะเป็นบ้านชั้นเดียวหรือบ้าน 2 ชั้น ในการเลือกย่อมขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้อยู่อาศัยเป็นหลัก ดังคำโบราณที่ว่า “ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ตามใจผู้นอน” โดยพิจารณาร่วมกับขนาดที่ดินที่จะก่อสร้าง รวมไปถึงงบประมาณ เพื่อให้ได้บ้านที่มีฟังก์ชั่นตอบโจทย์การอยู่อาศัย