บ้านหลังคาสองระดับ

บ้านหลังคาสองระดับ

บ้านหลังคาสองระดับ นี่คือบ้านสำหรับคู่รักหนุ่มสาวที่มีงานอดิเรกเกี่ยวกับมอazเตอร์ไซค์ ตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัยอันเงียบสงบในเมืองโยโกฮาม่า จังหวัดคานากาว่า ไซต์นี้มีซากของสิ่งก่อสร้างเดิมสร้างที่เป็นลักษณะเหมือนรูปแท่น และแต่ละแท่นมีกำแพงกันดินเก่า ดังนั้นไซต์นี้จึงอยู่ภายใต้ข้อจำกัดทางกฎหมายต่างๆ

บ้านหลังคาสองระดับ ชั้นบนเจาะปลูกต้นไม้ ชั้นล่างแบ่งให้มอเตอร์ไซค์และต้องทำการปรึกษากับหน่วยงานรัฐบาล จึงกลายเป็นองค์ประกอบการออกแบบที่สำคัญของบ้านหลังนี้ ผลลัพธ์ที่ได้คือหลังคาสองชั้นที่ซ่อนทัศนวิสัยของสองชั้น เพดานลาดเอียงของหลังคาและเพดานต่อเนื่องปรากฏขึ้นในห้องและเชื่อมโยงการออกแบบภายในและภายนอกเข้าด้วยกัน และสร้างการออกแบบที่เสร็จสมบูรณ์โดยไม่ให้กำแพงกันดินเก่าถูกแตะต้อง อ่านเพิ่มเติม

บ้านใส่ช่องแสง

แต่ละบ้านมีจุดที่ต้องการต่างกัน สำหรับบ้านนี้สมาชิกครอบครัวกล่าวว่าเหตุผลสำคัญประการหนึ่งที่พวกเขาตัดสินใจสร้างบ้านคือ ต้องการโรงจอดรถมอเตอร์ไซค์ จักรยาน 3 คัน และรถยนต์ ในญี่ปุ่นมีกฎหมายว่าถ้าจะซื้อรถต้องมีที่จอด แต่หากไปจอดรถจุดอื่นที่ห่างจากบ้าน เจ้าของจะต้องเสียค่าจอดรถและวิตกกังวลว่ารถจะถูกโจรกรรม

เพื่อตอบสนองความปรารถนาที่จะมองเห็นและใช้งานได้ จึงลงตัวที่การแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งให้รถไปเลย นอกจากนี้ เจ้าของยังต้องการห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหารขนาดใหญ่ แม้ว่าห้องนอนจะเล็กลงหน่อยก็ไม่เป็นไร ดังนั้นการสร้างบ้านตามคำขอจึงเริ่มขึ้นจากโจทย์เหล่านี้แนวกำแพงโบราณ ผนัหินของเดิมที่หน้าบ้านยังคงถูกเก็บไว้ แล้วทำบ้านให้กลมกลืนไปกับบริบทเหล่านี้

หากเป็นบ้านอื่นผนังเก่าที่เต็มไปด้วยหินดำ ๆ นี้คงถูกรื้อ แต่ไม่น่าเชื่อว่าพอคงไว้แล้วเติมด้านข้างอีกนิดจะเข้ากับอาคารใหม่ได้เป็นอย่างดี ในส่วนความสูงของบ้านตามกฎหมายญี่ปุ่น ถ้าทำหลังคาเป็นผืนเดียวจะอนุญาตความสูงไม่มากทำได้แค่บ้านชั้นเดียว แต่ถ้าแยกหลังคาจะก่อสร้างบ้านได้สูงขึ้นอีกนิดเป็นบ้านสองชั้นได้ หลังคาสองชั้นนี้จึงทำหน้าที่เป็นทั้งหลังคาสำหรับที่อยู่อาศัยและโรงรถขนาดกะทัดรัด เป็นการสร้างบ้านให้ดูเป็นหลังคาเดียวที่มีการเชื่อมต่อที่ใช้งานได้ แม้จะแยกเป็นโครงสร้างก็ตาม

จากโรงรถจะมีควาต่างระดับโดยธรรมชาติของไซต์อยู่แล้ว จึงเป็นการทำบ้านสองชั้นไปโดยปริยาย บ้านตกแต่งเรียบง่ายด้วยไม้ตามสไตล์ญี่ปุ่นร่วมสมัย ภายในห้องโถงมีแพนทรีครัว โต๊ะทานข้าวไม้ชุดเล็ก บนผนังบิลท์ชั้นวางของเป็นช่องๆ สูงจากพื้นถึงเพดาน ใช้ประโยชน์หลากหลาย อาทิ ชั้นวางของ เก็บของ ตู้ครอบแอร์ และแอบมีหน้าต่างบานเล็กรวมอยู่ในเฟอร์นิเจอร์อย่างแนบเนียน

เพดานขนาดใหญ่ทับซ้อนกันชั้น 1 จากชั้น 2 ในระดับที่สองระหว่างระดับมีช่องว่างอยู่ จึงสร้างหน้าต่างช่องแสงยาวๆ่ยดึงแสงส่องสว่างในระดับบนให้กระจายได้กว้าง ในขณะที่รักษาความเป็นส่วนตัวไปด้วย ในช่วงกลางของปริมาตรอาคารหลังคาถูกขัดจังหวะด้วยช่องเปิดเพื่อให้เกิดที่ว่างเป็นคอร์ทปลูกต้นไม้ขนาดเล็ก บนชั้นนี้จึงมีสวนเป็นของตัวเองด้วย ส่วนประตูกระจกนี้จะสามารถมองลงไปเห็นพื้นที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ได้แบบไม่คลาดสายตา เป็นการเติมความปฏิสัมพันธ์ของความชอบเข้ากับพื้นที่อยู่อาศัย

ภายในมีการวางแผนรอบหลังคานี้ให้เป็นช่องว่างต่างๆ เพื่อรับแสงและระบายอากาศ ชั้นด้านบนที่เหมือนชั้นลอยใต้หลังคาได้รับความเป็นส่วนตัวจากมุมมองของสายตาบุคคลภายนอก แต่ยังสามารถมองลอดออกไปเห้นความเคลื่อนไหวภายนอกอย่างชัดเจน

การสร้างหลังคาสองระดับเป็นวิธีการที่น่าสนใจ ในแง่ของการเปิดพื้นที่รับแสงและเพิ่มมมุมมองให้บ้านได้ในมุมสูง แต่อาจจะต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายในส่วนโครงสร้างที่สูงขึ้น และต้องออกแบบระบบกับซึม กันสาดให้ดีในบ้านเขตร้อนชื้นที่ฝนตกชุก ซึ่งอาจจะถูกลมพัดสาดน้ำฝนย้อนเข้าไปยังช่องเปิดหรือรอยรั่วซึมต่างๆ ได้ดี

นิยามของบ้านสไตล์โมเดิร์น

บ้านสไตล์โมเดิร์น คือบ้านที่ได้รับอิทธิพลมาจากสิ่งก่อสร้างจากยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมของชาติตะวันตกในศตวรรษที่ 18 ซึ่งผสมผสานระหว่างความทันสมัยและร่วมสมัย ทั้งด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรมเข้าด้วยกัน โดยโครงสร้างและวัสดุที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นโลหะ คอนกรีต กระจก เหล็กและไม้ ซึ่งวัสดุเหล่านี้มีความงามตามธรรมชาติ ดูโดดเด่น สวยงาม หรูหรา ให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติ แต่แฝงด้วยรายละเอียดที่ไม่เหมือนใคร 

จุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของบ้านสไตล์โมเดิร์นที่ไม่ต้องสังเกตก็สามารถรู้ได้ทันทีนั่นคือ รูปทรงเรขาคณิต เช่น สี่เหลี่ยมหรือเส้นโค้งที่เกิดจากส่วนของวงกลมที่มีความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน อีกทั้งเฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์เรียบง่าย แต่คำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยมากกว่าการตกแต่งให้สวยงามหรูหราเพียงอย่างเดียว

ข้อดีของบ้านโมเดิร์นที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

1. บ้านโมเดิร์น – ดูแลรักษาง่าย

เนื่องจากวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างบ้านสไตล์โมเดิร์นเป็นวัสดุที่หาง่าย มีความทันสมัย โดยเฉพาะกระจกและเหล็กซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสไตล์บ้านโมเดิร์น ทำให้เวลาทำความสะอาดหรือต่อเติมสามารถทำได้ง่าย ไม่ต้องเสียเวลาในการหาวัสดุมาเปลี่ยนหรือต่อเติมให้ยุ่งยาก รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านเอง ที่เน้นฟังก์ชันการใช้งานและจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ซึ่งนอกจากช่วยประหยัดพื้นที่แล้วยังประหยัดเวลาในการดูแลรักษา ในขณะเดียวกันยังเพิ่มภาพลักษณ์หรูหราให้กับบ้านมากขึ้นด้วย

2. บ้านโมเดิร์น – แบ่งสัดส่วนชัดเจน

การแบ่งสัดส่วนชัดเจน มีพื้นที่สำหรับรองรับการใช้งานในส่วนนั้น ๆ โดยเฉพาะ เป็นอีกหนึ่งข้อดีของบ้านโมเดิร์น ที่สร้างผลลัพธ์ให้ทุกพื้นที่ใช้สอยในตัวบ้านถูกใช้งานอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด โดยไม่ทับซ้อนหรือปะปนกับพื้นที่ส่วนอื่น ๆ ทำให้บ้านดูมีความเป็นระเบียบและดูไม่รกอีกด้วย

3. บ้านโมเดิร์น – ดีไซน์ทันสมัย

เพราะสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของบ้านสไตล์โมเดิร์น คือการผสมผสานระหว่างความทันสมัยและร่วมสมัย ซึ่งมาจากวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง ยิ่งไปกว่านั้นในยุคนี้ยังมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ ที่เข้ามาเสริมความสะดวกสบายให้กับบ้านมากขึ้น อย่างเช่น การติดตั้งแผงโซลาร์รูฟ (Solar Roof) เป็นต้น ที่ช่วยประหยัดพลังงานภายในบ้าน อีกทั้งเฟอร์นิเจอร์ของบ้านสไตล์โมเดิร์นมักเป็นรูปทรงที่เรียบง่าย น้อยแต่มาก มีมัลติฟังก์ชั่นในตัวเพื่อตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย ถือเป็นอีกหนึ่งข้อดีที่ทำให้บ้านสไตล์โมเดิร์นดูทันสมัยอยู่เสมอ 

4. บ้านโมเดิร์น – การเลือกใช้สี

สไตล์บ้านโมเดิร์นเป็นสไตล์ที่ยึดความเรียบง่ายเป็นหลัก เราจึงเห็นบ้านสไตล์นี้ในโทนสีกลาง ๆ หรือโทนสีสว่าง ไม่ฉูดฉาด เช่น สีขาว ครีม เบจ หรือสีเอิร์ธโทนที่ให้ความรู้สึกหรูหรา อบอุ่น น่าอยู่อาศัยและมีความใกล้เคียงกับธรรมชาติ เพื่อให้ผสมผสานเข้ากับวัสดุต่าง ๆ ภายในบ้านได้อย่างลงตัว แต่หากรู้สึกว่าบ้านดูเรียบเกินไปอาจใช้เส้นสาย สีสันแบบ Primary Colors หรือแม่สีของเฟอร์นิเจอร์มาตกแต่ง เพื่อทำให้ภาพรวมของบ้านดูมีเสน่ห์และมีสไตล์มากขึ้น

5. บ้านโมเดิร์น – ประหยัดงบในการสร้าง

ด้วยโครงสร้างของบ้านโมเดิร์นที่ไม่ซับซ้อนและดีไซน์ที่เน้นความเรียบง่าย ทำให้ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างน้อยกว่าบ้านสไตล์อื่น ๆ นั่นหมายความว่างบประมาณที่ใช้ก็จะน้อยลงตามไปด้วย รวมไปถึงลดค่าใช้จ่ายในการตกแต่งภายในบ้านไปได้เยอะ