รีโนเวทบ้านเก่า

รีโนเวทบ้านเก่า

รีโนเวทบ้านเก่า รีโนเวทบ้านเก่าให้ดูใหม่ คงความทรงจำบางอย่างที่จะไม่ลืมช่วงหลายปีมานี้เราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของงานอสังหาริมทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศ ที่มีการซื้อบ้านหรืออาคารมือสองมาปรับปรุงให้มีชีวิตใหม่มากขึ้น บ้านนี้ก็เป็นหนึ่งในโครงการรีโนเวทและต่อเติมที่พบเห็นได้ทั่วไปในไต้หวัน

นักออกแบบเริ่มจากรื้อพื้นที่บางส่วนด้านหน้าออก แล้วทำลานสนามหญ้าภายใน ทำให้พื้นที่เดิมที่แออัดถูกปล่อยให้เป็นอิสระสำหรับการใช้ชีวิตกลางแจ้ง และสร้างการหมุนเวียนของอากาศด้วย ที่ดินสีเขียวที่เชื่อมต่อกับลานบ้านแบบเปิด ทำให้ดูเป็นมิตรกับเพื่อนบ้านที่สามารถเดินเข้ามาได้โดยตรง ในขณะเดียวกันบริเวณสตูดิโอชั้นล่างก็สามารถเพลิดเพลินกับแสง สีเขียว โดยไม่มีอะไรกั้น ตัวบ้านที่ร่นจากถนนเข้ามาค่อนข้างมาก ทำให้บ้านดูจะมีระยะห่างจากถนนพอสมควรให้ความรู้สึกว่าบ้านยังมีพื้นที่กันชนอยู่บ้าง

โดยชั้นแรกของบ้านถูกกำหนดเป็นสตูดิโอและมีพื้นที่ใช้สอยส่วนตัวในชั้นสอง เจ้าของบ้านค่อนข้างให้ความสำคัญกับทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับบ้านหลังเก่า และขอให้ทีมงานออกแบบคงสัญลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมของท้องถิ่นและประวัติศาสตร์ในบ้านหลังเก่าหลังนี้ เพื่อให้ยังคงมีความทรงจำเดิม ๆ อยู่ ดังนั้นทีมออกแบบจึงซ่อมแซมและสร้างองค์ประกอบและส่วนประกอบทางสถาปัตยกรรมขึ้นใหม่ให้กลมกลืน คลิ๊กที่นี่

อาคาร 2 ชั้นพื้นที่ 113 ตารางเมตรนี้

ไซต์ตั้งอยู่ในเขตที่อยู่อาศัยเชิงพาณิชย์ของเมืองไถหนาน ประเทศไต้หวัน ในอนาคตด้านหลังอาคารเก่าหลังนี้จะกลายเป็นทางเข้าหลัก เนื่องจากมีการต่อเติมผังเมืองและการปรับถนนใหม่ วิธีการแปลงสิ่งปลูกสร้างที่ผิดกฎหมายและพื้นที่ที่มีอยู่ให้เป็นทางเข้า

และด้านหน้าที่สวยงามถูกตามผังเมืองที่จะมาถึงจึงเป็นหนึ่งแนวคิดที่สำคัญในโครงการนี้การออกแบบปรับปรุงบ้านเน้นให้คงโครงสร้างที่มีอยู่เดิมให้มากที่สุด และรื้อผนังบางส่วนเพื่อสร้างส่วนหน้าอาคารใหม่ที่เรียบง่ายและมีรูปทรงที่ชัดเจนขึ้น ผนังด้านนอกทาสีขาวสะท้อนแสงอาทิตย์ได้ ในขณะเดียวกันสีเทาที่ทาบนผนังระเบียงจะช่วยเสริมเอฟเฟกต์ของเงาให้สดใสยิ่งขึ้น ผลที่ได้คือบ้านสไตล์โมเดิร์นเรียบๆ แต่จะแสดงรูปแบบได้ชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยการใส่คอนทราสต์หรือความขัดแย้งสูงในบางจุดเพื่อดึงสายตา

ในส่วนของคอร์ทยาร์ดจะเป็นพื้นที่เปิดโล่งออกสู่ท้องฟ้า (open space) ให้ต้นไม้เติบโตทะลุช่องว่างขึ้นไปได้ในอนาคต เมื่อแหงนหน้าขึ้นไปจะเห็นว่ามีการติดตั้งเหล็กเส้นเป็นช่องตารางแทนเพดานแะลหลังคาที่ถูกรื้อถอนบางส่วน วิธีนี้จะทำให้บ้านได้รับแสงและเห็นมิติของเงาเมื่อแสงแดดส่องผ่านเหล็กเส้นไปยังลานบ้าน

ภายในเราจะพบตัวอย่างการเก็บรักษากลิ่นอายและเค้าโครงบ้านดั้งเดิม อาทิ  รูปแบบของซุ้มประตูจีนกลมๆ แสดงเป็นสัญลักษณ์สำหรับหน้าต่าง วัสดุหินขัดที่มีอยู่เดิม ราวจับเหล็กดัดลวดลายดอกไม้ และโครงสร้างไม้บนเพดานที่ได้รับการสงวนรักษาไว้อย่างดี

ไม่เพียงแต่การรักษาของเดิมเอาไว้เท่านั้น ทีมออกแบบยังพยายามนำเสนอรูปแบบพื้นที่ใช้สอยร่วมสมัยที่ดูเพิ่มวัสดุใหม่ ๆ เฟอร์นิเจอร์โมเดิร์น ฟังก์ชันการใช้งานสะดวกสบายตอบโจทย์การใช้งานและสภาพอากาศ บรรยากาศของบ้านสะอาดโปร่งตา เต็มไปด้วยแสงธรรมชาติ​​เอาไว้ในอาคารอนุรักษ์นิยมแห่งนี้อย่างเข้ากัน

บนชั้นสองจะเป็นพื้นที่ใช้งานส่วนตัว ประกอบด้วย มุมนั่งเล่นพักผ่อน ครัวเล็ก ๆ ห้องนอน ห้องน้ำ ซึ่งยังคงคอนเซ็ปในการใช้งานพื้นที่คล้ายกับชั้นล่าง คือ การรื้อผนังที่ไม่ได้ใช้งานออกจัดสเปซโปร่งโล่ง เพื่อให้ความรู้สึกเป็นอิสระในการใช้งาน ลดการแบ่งซอยบ้านออกเป็นห้องเล็กห้องน้อย การใช้สีขาวเป็นหลักในส่วนของผนัง หลังคา และพื้น ช่วยสะท้อนแสงพรางสายตาให้ห้องดูกว้างขึ้นกว่าความเป็นจริง และยังทำให้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักอย่างโซฟาสีเข้มหรือโครงคานหลังคาไม้สีน้ำตาลเด่นชัดขึ้นมาท่ามกลางฉากหลัง

การทำคอร์ทยาร์ปลูกต้นไม้หน้าบ้านที่สามารถทะลุเพดานขึ้นไปได้ เพื่อให้ดูเหมือนบ้านกำลังโอบกอดต้นไม้และลานบ้านเอาไว้ ผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่จะได้สัมผัสกับการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลได้อย่างใกล้ชิด องค์ประกอบของธรรมชาติที่ถูกสร้างขึ้นบนอาคารเก่าแห่งนี้ เหมือนเป็นการเกิดใหม่จากมุมมองของคนปัจจุบัน ที่พร้อมเติบโตคู่กับจิตวิญญาณแห่งสถาปัตยกรรมเก่าที่เหมือนยังมีชีวิตอยู่ได้ต่อไปอย่างทรงคุณค่าการเลือกซื้อบ้านเก่ามารีโนเวทเพื่อการอยู่อาศัย เป็นทางเลือกใหม่ ๆ สำหรับคนที่มองหาบ้านในงบที่น้อยลงกว่าบ้านสร้างใหม่

ที่ราคาแพงมากจนเอื้อมไม่ถึง แต่ก่อนจะตัดสินใจซื้อบ้านเก่ามาทำใหม่ต้องพิจารณาองค์ประกอบหลาย ๆ ประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงสร้างภายในอาคาร อาทิ ฐานราก เสา เพดาน ผนัง โครงสร้างหลังคา ฯลฯ ที่ควรให้วิศวกรตรวจสภาพให้ดี เนื่องจากบางโครงการเก่า ๆ อาจไม่ได้คำนวณและควบคุมโดยวิศวกรหรือสถาปนิก การรับน้ำหนักเพิ่มหรือการลดเสาในบางจุดอาจไม่สามารถทำได้ หากไม่ตรวจเช็คให้ดีอาจได้บ้านที่ไม่คุ้มกับการเสียเงินปรับปรุง

รีโนเวทบ้านทรงกระท่อม ใส่เรื่องราวบทใหม่ ในบ้านหลังเดิม

บ้าน MM ใน Domžale ประเทศสโลวีเนีย ซึ่งได้รับการปรับปรุงใหม่โดยสถาปนิก a2o2 ไม่มีอะไรพิเศษ ไม่ใช่มรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญหรือต้องได้รับการอนุรักษ์ แต่เป็นเพียงบ้านที่ไม่มีชื่อไม่มีใครสังเกตเห็นมาเป็นเวลาหลายปี ในปี 2019 เจ้าของกับสามีคิดจริงจังที่จะขายบ้านในดอมชาเล่และย้ายไปอยู่ทะเล เพราะบ้านเดิมสูงสองชั้นไม่มีพื้นที่ต่อเชื่อมกับสวนและปล่อยร้างมาหลายปี แต่ก็นึกขึ้นได้ว่า การที่เราแก่ขึ้นทุกวันและการย้ายไปที่ไหนสักแห่ง ที่ต้องใช้รถทุกครั้งจะไม่สะดวก ดังนั้น ก่อนเกษียณอายุ จึงเปลี่ยนความคิดใหม่ว่าจะปรับปรุงบนแปลงที่เป็นเจ้าของอยู่แล้ว

บ้านร้างในเมืองDomžale ความตั้งใจเดิมคือการรื้อถอนอาคารที่มีอยู่แล้วสร้างใหม่ เพราะอาคารเดิมก่อสร้างตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 แต่เมื่อสถาปนิกเข้ามาตรวจเช็คก็พบว่าโครงสร้างบ้านยังดีอยู่ และเป็นหนึ่งในบ้านแบบดั้งเดิมที่เหลืออยู่ไม่กี่หลังในละแวกนั้น จึงแนะนำให้ลูกค้าปรับปรุงบ้านและเพิ่มส่วนขยายที่ตกแต่งด้วยไม้และห้องนอนชั้นลอย เพื่อปรับให้เข้ากับชีวิตสมัยใหม่ ใช้เวลาเจ็ดเดือนในการฟื้นฟูหน้าต่างและประตูเก่า แต่ได้ผลออกมาเป็นบ้านที่น่ารักจับใจ เห็นแล้วรู้สึกหลงรักในความเรียบง่ายในทันที

ทีมงานตั้งใจคงรูปลักษณ์บ้านหลังคาแหลมที่มีอยู่ก่อน อาคารอิฐ และช่องเปิดหน้าต่างยังคงเดิม แต่ต้องยกหลังคาขึ้นเพิ่มพื้นที่ใช้สอยใต้หลังคาให้สบายกว่าเก่า ส่วนหลังคาใหม่เป็นเหล็กเพื่อแทนที่หลังคากระเบื้องเก่าที่แตกหักเสียหายไปเกือบ

สถาปนิกขยายอาคารที่ปลายด้านหนึ่ง เพื่อขยายพื้นที่ใช้สอยและใส่ฟาซาดระแนงเป็นฉากพรางตา การเพิ่มใหม่เข้ากับบ้านหน้าจั่วของโครงสร้างเดิม แต่หุ้มภายในด้วยไม้สีอ่อนๆ ในที่ว่างนี้จะมีซิงค์ล้างมือ ที่นั่งเล่น ตู้เก็บของในชิ้นเดียว เมื่อเดินออกมาจากตัวบ้านจะแวะนั่งเล่นตรงนี้ แล้วเดินออกมาใช้ชีวิตที่สวนได้อย่างราบรื่น หรือจะนั่งพัก ล้างมือ และเครื่องมือทำสวนให้สะอาด ก่อนเดินเข้าสู่ตัวบ้านก็ได้เช่นกัน

บ้านเดิมแม้ว่ามันจะใหญ่ แต่ก็มีห้องนั่งเล่นที่เล็กและแยกจากกัน สถาปนิกกจึงพยายามเชื่อมต่อในทุกมิติ ทั้งมิติของพื้นที่ ที่มีความต่อเนื่องเป็นสเปซเดียวจากแปลนบ้านที่ปรับเป็น open plan ลดความทึบของผนังที่เป็นเป็นห้องเล็กห้องน้อยในชั้นล่าง มีประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ทำหน้าที่รับแสงธรรมชาติ เปิดรับลมระบายอากาศ และเป็นตัวกลางเชื่อมต่อระหว่างบ้านกับสวนแบบที่บ้านเก่าไม่มี และยังมีบางส่วนของบ้านที่ถูกเจาะเป็นช่วงว่าง เชื่อมต่อกับห้องนอนชั้นบน ทำให้รู้สึกถึงความใกล้ชิดเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

โครงสร้างไม้รองรับด้วยโครงเหล็กวางทับบนกำแพงอิฐเดิม เพดานในบริเวณนี้ของบ้านยังปูด้วยไม้ เพื่อแยกความแตกต่างจากโครงสร้างอิฐ  แต่มีการใช้โทนสีแบบเรียบ ๆ เพื่อรวมส่วนเก่าและใหม่ของอาคารไว้ด้วยกัน ในขณะที่ยังคงความโดดเด่น กำแพงอิฐที่มีอยู่ได้รับการเคลือบสีขาวบางๆ ช่วยเสริมไม้สีซีดของไม้ เช่น ประตูหน้าต่างใหม่ ส่วนฟังก์ชันการใช้งานนั้น พื้นที่ใช้สอยหลักตั้งอยู่ในส่วนต่อขยายความสูงสองเท่า ซึ่งเป็นไปตามรูปแบบหน้าจั่วของด้านนอก บริเวณห้องนั่งเล่นสว่างมีชีวิตชีวา โซนบริการใหม่ที่แทรกตรงกลางอาคารประกอบด้วย ห้องนอนที่ชั้นบน พร้อมครัว และพื้นที่รับประทานอาหารด้านล่าง

เนื่องจากบ้านมีขนาดเล็กมาก หลังจากปรับปรุงใหม่แล้วจึงมีเนื้อที่รวม 100 ตารางเมตร สถาปนิกจึงตัดสินใจเปิดขึ้นด้านบนและใส่ส่วนของห้องไม้ที่มีฟังก์ชันห้องนอน ห้องน้ำ และห้องเอนกประสงค์สำหรับออกกำลังกายพร้อมที่ทำงาน ที่รักษาสัดส่วนและความสูงที่เหมาะสมกับการใช้ชีวิตจริง “ในระหว่างขั้นตอนการปรับปรุง พวกเขาผูกพันกับบ้านจริงๆ” สถาปนิกกล่าวเสริม “และสิ่งนี้แสดงให้เห็นในผลลัพธ์ว่าบ้านเริ่มต้นชีวิตเมื่อสถาปัตยกรรมสิ้นสุดลง”

ข้อดีของการติดตั้ง Skylight จะเพิ่มแสงสว่างให้บริเวณบ้าน ลดการใช้ไฟส่องสว่าง หลังคาโปร่งแสงทำให้จุดอับหรือมุมมืดของบ้านสว่างขึ้น ช่วยระบายอากาศในบ้านและรับแสงเพื่อฆ่าเชื้อโรค โดยปกติสกายไลท์จะมีแบบที่เปิดออกได้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเปิดบ้านให้ระบายความร้อนออกจากตัวบ้าน ทำให้บ้านดูโปร่งและกว้างขึ้น ซึ่งการติดตั้งสกายไลท์แบบที่นำเสนอมานี้ก็มีจุดที่ต้องระมัดระวังอยู่เหมือนกัน เช่น การวางตำแหน่งต้องคำนึงถึงทิศทางของแสง และขนาดของบานควรเหมาะสมกับพื้นที่ เพราะถ้าแสงมากไปห้องก็จะร้อนมาก และดูแลการติดตั้งไม่ให้เกิดรอยรั่วบนหลังคาหรือผนังในจุดที่ติดตั้ง

รู้เรื่องรีโนเวทบ้าน (Renovate) คืออะไร

ก่อนลงมือรีโนเวทบ้าน ต้องเข้าใจและรู้เรื่องรีโนเวทบ้าน ตั้งแต่ความหมายของการรีโนเวทว่ามีความหมายอย่างไร ความหมายตรงตัวของคำว่ารีโนเวท (Renovate) คือ ‘บูรณะ’ เป็นการซ่อมแซม ทำใหม่ ปรับปรุงใหม่แบบยกเครื่อง หรือทำให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิม

มักจะมีรูปแบบที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง หรือมีกลิ่นอายของแบบเดิมอยู่บ้าง โดยอาศัยการปรับปรุงซ่อมแซมจากโครงสร้างเดิมของบ้านที่มีอยู่ เพื่อให้บ้านที่หมดสภาพและขาดกการดูแลมาเป็นระยะเวลานาน เปลี่ยนโฉมใหม่ให้สวยงามน่าอยู่ และสามารถอยู่อาศัยได้อีกนาน

ทำไมจึงควรรีโนเวทบ้านชั้นเดียว

เมื่อรู้เรื่องรีโนเวทบ้าน แล้วก็มาถึงเหตุผลว่าทำไมถึงควรรีโนเวทบ้าน โดยเฉพาะบ้านชั้นเดียว ที่จริงแล้วบ้านชั้นเดียวเป็นรูปแบบที่อยู่อาศัยที่มักเห็นได้ทั่วไปทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และมักนิยมมากในต่างจังหวัด ซึ่งเหตุผลหลักที่ต้องรีโนเวทบ้านชั้นเดียวนั้นมีดังนี้

1. ยืดอายุของบ้านให้นานขึ้น

บ้านทุกหลังล้วนประกอบไปด้วยโครงสร้างที่มีอายุการใช้งาน สำหรับบ้านที่มีอายุเก่าและขาดการซ่อมแซมดูแลอย่างสม่ำเสมอ โครงสร้างภายในบ้านบางส่วนจะมีความทรุดโทรม ซึ่งหมายถึงความไม่ปลอดภัยและความไม่สวยงามในการอยู่อาศัย การรีโนทเวทบ้านชั้นเดียวจึงเป็นการปรับปรุงโครงสร้างใหม่ เพื่อยืดอายุบ้านให้นานขึ้น

2. ความต้องการพื้นที่ใช้สอยที่เปลี่ยนไป

สำหรับบ้านชั้นเดียวที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก มักจะมีข้อจำกัดในเรื่องพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน ดังนั้นเมื่อฟังก์ชันและพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน ไม่สอดคล้องกับความต้องการใช้งานในปัจจุบัน หลายคนเลือกวิธีรีโนเวทบ้านชั้นเดียวใหม่ เพื่อจัดแบ่งสัดส่วนพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านใหม่ให้เหมาะกับการอยู่อาศัยมากขึ้น

3. เพื่อสุขอนามัยในการอยู่อาศัยที่ดีขึ้น

บริเวณมุมอับของบ้าน มักแฝงไปด้วยสิ่งสกปรกที่หลุดรอดสายตา ไม่ว่าจะเป็น ภายในห้องน้ำ บริเวณบนฝ้าเพดาน บริเวณงานระบบในครัว ปล่องท่อ หรือตามพื้นที่อับชื้นต่าง ๆ ที่ไม่ค่อยได้รับการทำความสะอาด ทำให้เชื้อโรคสะสมและทำความสะอาดได้ยาก การรีโนเวทบ้านชั้นเดียวจึงช่วยให้มุมอับต่าง ๆ เหล่านี้หายไป

4. เพื่อเพิ่มความปลอดภัยภายในตัวบ้าน

การรีโนเวทบ้าน ก็เป็นเหมือนการเพิ่มยาบำรุงสมรรถนะ ทำให้บ้านมีกำลังที่แข็งแรงมากขึ้น ดังนั้นการรีโนเวทบ้านจึงเป็นยาชั้นดี ที่ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอใหม่ เพื่อให้พร้อมสำหรับการอยู่อาศัยและความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยภายในบ้าน

อยากรีโนเวทบ้านชั้นเดียวด้วยตัวเอง ต้องทำอย่างไร

หลายคนอาจเกิดคำถามในใจว่า ถ้าอยากรีโนเวทบ้านด้วยตัวเองล่ะ จะทำได้หรือไม่ คำตอบก็คือ ได้แน่นอน ถ้าหากรายละเอียดของการรีโนเวทบ้านของคุณนั้น เป็นแค่การทาสีผนังใหม่ ปูพื้นไวนิลหรือลามิเนต เปลี่ยนบานประตู-หน้าต่าง ที่ไม่ไปยุ่งกับตัวโครงสร้างและงานระบบ ซึ่งหมายถึง บ้านของคุณจะต้องมีสภาพดีพอสมควร

แต่ถ้าหากว่าบ้านของคุณมีสภาพที่ชวนให้ท้อใจ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หรือว่าจ้างผู้รับเหมา เพื่อความปลอดภัยในโครงสร้าง และความอุ่นใจที่จะอยู่อาศัยในบ้านหลังนี้ไปอีกนาน